ถ้าให้พูดถึงน่านแล้วนั้น เดี๋ยวนี้จะเป็นที่นิยมสำหรับคนที่ชอบความเงียบสงบ เมืองน่ารัก แต่ทริปครั้งนี้เราเริ่มเดินทาง จากตัวอำเภอนาน้อย เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมไป คือ อุทยานแห่งชาติศรีน่าน ในอุทยานนั้นมีสถานที่่ท่องเที่ยว อันได้แก่ ผาชู้ ผาหัวสิงห์ และ ปิดท้ายด้วยวัดในเมืองน่าน
เป้าหมายในครั้งนี้ของเราคือ เดินทางไปกางเต้นท์ที่ ดอยเสมอดาว และ นอนอีกคืนที่คุ้มเมืองมินทร์
ออกเดินทางจากกทม 2 ทุ่ม 45 นาท เราถึงอำเภอเวียงสา 6โมงเช้านิดๆ นั่งรถรถเมล์ เพื่อเดินทางต่อไป อำเภอนาน้อยใช้เวลา ประมาณ 50 นาที
หลังจากลงรถ เราต้องโบกรถ เพื่อไปดอยเสมอดาว ใช้เวลาโบกประมาณ 20 นาที ก็พบกับคนทำไร่ข้าวโพดผ่านมา เลยรบกวนให้ไปส่ง สรุปคิดค่ารถ 300 บาท นึกว่าจะฟรี สุดท้ายก็ต้องจ่ายเงิน ก็ยังดีกว่าจ้างรถ ถ้าจ้างรถ 400 บาท
หลังจากเห็นวิวทิวทัศน์ของ ดอยเสมอดาว เรียบร้อย เราก็เริ่มกางเต้นท์ เพื่อ ออกเดินทางไปผาชู้กัน ระหว่างนั้นก็ถ่ายรูปเพลินๆ
ระยะทางในการเดินไปผาชู้นั้น 2 กิโลเมตร 400 เมตร ตัดสินใจเดิน เพราะตอนนั้นเวลา 10 โมงเช้านิดๆ ระหว่างทางที่เดินไปนั้น พบกับคุณลุงขับรถเก็บขยะบนดอย สงสารเลยรับเราไปส่งถึงที่เลย พอถึงปุ๊บ รีบวิ่งไปถ่ายรูปไว้เลย
นี่คือรถคนลุงที่มาส่งเราข้างบน
แต่จุดประสงค์หลักๆ เลยที่มาที่ผาชู้ อยากมาดูว่า เสาธงที่ยาวที่สุดเป็นยังไง และมีโอกาสได้รู้ถึงประวัติของผาชู้
เดินถ่ายรูปบรรยากาศรอบๆ
หลังจากที่ถ่ายรูปกันพอได้แล้ว เลยตัดสินใจหาอะไรง่ายๆกินกัน เพราะยังไม่ได้กินอะไรกันเลยเลยกินร้านอาหารของอุทยาน ราคาทั่วไปจานละ 30-40 บาท
หลังจากที่เรากินกันอิ่ม ก็เดินแวะไปถ่ายรูปตรงจุดชมวิวหลักกันหน่อย
เดี๋ยวคิดว่ามาไม่ถึงต้องถ่ายซ้ำๆ
แวะดูป้ายบอกที่ตั้งและสถานที่ท่องเที่ยวก่อนออกเดินทางลงไปดอยเสมอดาว
ไว้พบกันใหม่นะ ผาชู้
กำลังตัดสินใจจะเดินกัน คิดแล้วคิดอีก สุดท้ายมีคนแวะมาบอกน้องๆติดรถไปไหมเดี๋ยวพี่ไปส่ง รออะไรละรีบกันเลย นี่ถนนที่เราผ่านมาหรอ
พอเรากลับมาถึงดอยเสมอดาว ไม่รอช้า เดินขึ้นผาหัวสิงห์กัน เพราะเจ้าหน้าที่บอกว่า อย่าขึ้นเวลามืดมากอันตราย
สำหรับการเดินขึ้นผาหัวสิงห์ ไม่ยากมากหรอก แต่ทางขึ้นหินมันอันตรายนิดหน่อย อาจจะโดนได้ระวังนิดหน่อย
วิวบรรยากาศด้านบนสวยงามมาก สำหรับคนที่ไม่เคยปีนขึ้นมา แล้วจะประทับใจมาก
ถ่ายป้ายชัดๆอีกสักภาพหนึ่ง
หลังจากนั้นเราก็เดินลงมา เพื่อไปหาซื้อสะเบียงไว้กินเย็นนี้และพรุ่งนี้เช้า
โน่น ที่เรานอนนี่น่า ไม่ไกลมาก
หลังจากที่กินขนมกันเสร็จเวลาก็ล่วงเลยมาสักพัก เลยตัดสินใจไปนั่งชมพระอาทิตย์ตกกัน
ท้องฟ้าค่อยๆ แดง พระอาทิตย์ค่อยๆ หายลงไป
หลังจากที่เราชมพระอาทิตย์กันตกก็พากันเข้านอนเพราะตอนนั้นบรรยากาศเย็นมาก
ตื่นมาชมพระอาทิตย์กันตอนเช้า เห็นทะเลหมอกเป็นสายน้ำสวยมาก
หลังจากที่เราชมทะเลหมอกยามเช้ากันเสร็จก็ตัดสินใจลงจากดอยเสมอดาวเข้าไปรอรถ เพื่อเข้าตัวเมือง
หลังจากที่เราเข้าตัวเมือง เราก็มองหาที่พัก สำหรับคืนนี้ เราเลือกจองกับเว็บ choowap.com และขอยืมรูปภาพมาประกอบด้วยน่ะค่ะ
ที่เราจองเป็นที่นี่ http://www.choowap.co.th/hotel/คุ้มเมืองมินทร์
หลังจากที่เข้าที่พักแล้ว เราก็เดินออกไปหาอะไรกินกัน เลยแวะไปวัดพระบรมธาตุแช่แห้ง
พระบรมธาตุแช่แห้งเป็นพระธาตุประจำปีกระต่าย ชาวล้านนาเชื่อว่า หากได้เดินทางไป “ชุธาตุ” หรือนมัสการพระธาตุประจำปีเกิดจะได้รับอานิสงส์อย่างยิ่ง นักท่องเที่ยวสามารถเข้าชมวัดพระธาตุแช่แห้งได้ทุกวัน ระหว่างเวลา 06.00-18.00 น.
หลังจากที่เข้าวัดกราบสักการะกันเรียบร้อย มีคนบอกว่า ข้าวซอยไก่อร่อยมากอยู่ตรงหน้าวัดพอดีเลย
หลังจากที่หาอะไรกินกันอิ่ม ก็เข้าที่พักนอนน เพื่อ เตรียมตัวออกเที่ยววัด บริเวณตัวเมือง สัก 2-3 วัด แล้วค่อยกลับกทม
วัดแรกที่เราจะไปนั้นคือวัดภูมินทร์ วัดนี้เราไปในช่วงที่มีงานพอดีเลย
แต่เสียดายที่พื้นที่แคบ มีการจัดงาน วางเก้าอี้และโต๊ะ เลยไม่ได้ถ่ายรูป ภาพจิตรกรรมฝาผนัง
ถ่ายป้ายไว้เป็นที่ระลึกสักป้าย
หลังจากนั้นเดินไปนิดหนึ่งจะเจอ พิพิทธภัณฑสถานแห่งชาติน่าน
ด้านหน้าของ พิพิทธภัณฑสถานแห่งชาติน่าน จะเห็นวัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหาร
ต้นลีลาวดี
วัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหารนี้ถ่ายคู่กับต้นลีลาวดี ไร้ใบสวยงามมาก ถ่ายกับท้องฟ้าสีฟ้า
ถึงเวลาที่เราต้องกลับไปทำงานกันแล้วละ ไว้ค่อยมาแอ่วเหนือกันใหม่
Tag : #เมืองน่าน #เที่ยวน่าน #จังหวัดน่าน #ดอยเสมอดาว #วัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหาร