ชื่อของพิพิธภัณฑ์นี่มีความหมายตรงตัวว่า ผลส้ม หรือ พิพิธภัณฑ์ต้นส้มนั้นเอง ที่มาของชื่อก็ต้องย้อนไปในปี 1852 เมื่อนโปเลียนที่ 3 มีรับสั่งให้สร้างอาคารนี้ขึ้นมาเมื่อใช้เป็นโรงเรือนสำหรับต้นส้มนั่นเอง

พิพิธภัณฑ์ต้นส้มแห่งนี้มีค่อนข้างขนาดเล็ก แต่เต็มไปด้วยผลงานอิมเพรสชั่นนิสม์ หากเข้าไปที่พิพิธภัณฑ์แล้วจะได้พบกับความโล่งสบายตาซึ่งต้องขอบคุณหน้าต่างบานใหญที่เปิดรับแสงอาทิตย์แบเต็มๆ หน้าต่างบานใหญ่เช่นนี้เเท้จริงเเล้วนั้นในอดีตมีส่วนช่วยให้ต้นส้มจริญเติบโตได้ดี ต่อมาเป็นภาพวาดบ่อบัวของโมเนต์  ภาพวาดนี้จัดแสดงอยู่ที่ชั้น 1 ของพิพิธภัณฑ์ เราแนะนำให้รีบไปในช่วงที่ไม่มีคน เพื่อที่จะได้นั่งดื่มด่ำความงดงามของผลงานชื่อดังชิ้นนี้ ที่ห้องจัดแสดงนี้ถูกล้อมรอบไปด้วยภาพเขียน 8 ภาพด้วยกัน แต่ละภาพมีความกว้าง 91 เมตรและสูง 2 เมตร โดยการจัดแสดงภาพทั้ง 8 นี้มีเป้าหมายเพื่อให้คุณได้มีโอกาสชื่นชมภาพของสระบัวแห่ง Giverny ซึ่งเป็นที่อาศัยของโมเนต์ ในแบบพาโนรามานั่นเอง ต่อมาเป็นคอลเลกชั้นภาพชุดที่มีผลงานต่างๆที่เกี่ยวของกับแนวคิดศิลปะแบบอิมเพรสชั่นนิสม์ในศตวรรษที่ 19 ไปจนถึงงานศิลปะในยุคศตววรรษที่ 20 เพื่อทำความเข้าใจกับทิศทางการเปลี่ยนแปลงและวิวัฒนาการของศิลปะ หนึ่งในคอลเลกชั่นที่พลาดไม่ได้ คือ ผลงานของอีกหนึ่งศิลปินอิมเพรสชั่นนิสต์ชื่อว่า Renoir ซึ่งจัดแสดงอยู่ที่ด้านซ้ายมือของห้องใต้ดิน

นอกจากนี่ยังมีนิทรรศการชั่วคราวคอลเลกชั่นงานศิลปะต่างๆภายในพิพิธภัณฑ์ พิพิธภัณฑ์ออแร็งเจอรี ยังมีพิพิธภัณฑ์อื่นๆที่น่าสนใจ และนอกจากนี้ยังมีของช๊อปปิ้งมากมาย และยังรวมไปถึงร้านกาแฟและขนมชื่อดังอย่าง Ladurée