“วัดเก่าแก่ริมแม่น้ำท่าจีน และมีพระประธาตศักดิ์สิทธิ์-หลวงพ่อปู่วัดโกรกกราก(ใส่แว่นดำ)”
ตั้งอยู่บริเวณใกล้เคียงกับพระอุโบสถ มีจำนวน 2 องค์ องค์แรกเป็นเจดีย์มุม พระอุโบสถด้านหน้า ลักษณะเป็นเจดีย์ก่ออิฐถือปูนย่อมุมไม้สิบสอง ตั้งอยู่บนฐานสี่เหลี่ยมมีกำแพงแก้วขนาดเล็กล้อมรอบ องค์ที่สองเป็นพระปรางค์สำหรับบรรจุอัฐิขนาดเล็ก ก่ออิฐถือปูน
ลักษณะเป็นอาคารไม้ทรงไทย หลังคาเครื่องไม้มุงกระเบื้องสีมีชายคาปีกนกคลุมโดยรอบทั้งสี่ด้าน รองรับโครงหลังคาด้วยเสาไม้กลม ช่อฟ้าใบระกาไม้ประดับกระจก หน้าบันเรียบฝาผนังไม้ด้านหน้าและหลังมีประตูทางเข้าด้านละ 2 ประตู ด้านข้างมีหน้าต่างด้านละ 5 บาน บานประตูหน้าต่างไม้ ภายในพระอุโบสถมีฐานชุกชีประดิษฐานพระพุทธรูปปูนปั้นประทับนั่ง แสดงปางมารวิชัย ด้านหลังพระประธานมีตู้ขนาดใหญ่ ด้านในประดิษฐานพระพุทธรูป ปัจจุบันด้านหน้าตู้มีทองปิดทับเต็มหมด ไม่สามารถมองเห็นภายในได้
ส่วนสาเหตุที่ต้องใส่แว่นดำนั้น เนื่องจากครั้งหนึ่งได้เกิดโรคตาแดงระบาดไปทั่วบ้านโกรกกราก การแพทย์ยังไม่เจริญ รักษากันตามมีตามเกิดแต่ก็ไม่หาย ด้วยความเลื่อมใสศรัทธาองค์พระศิลาแลงกันมานาน จึงได้พากันมาบนบานศาลกล่าว ถ้าตาหายเจ็บหายแดง จะนำแผ่นทองมาปิดที่ดวงตาขององค์พระศิลาแลง ผล ปรากฏว่าตาหายแดงกันทั้งหมู่บ้าน ชาวบ้านจึงได้นำแผ่นทองมาปิดที่ตาขององค์พระศิลาแลงเต็มไปหมด
เดิมเป็นชุมชนชาวจีน สังเกตุได้จาก
อุโบสถไม้สักหลังคาแอ่นคล้ายเก๋งจีน เสาระเบียงเฉียงออกทั้งสี่ด้าน บริเวณด้านหน้ามีเจดีย์สององค์ มีเรือสำเภาจีนสร้างด้วยคอนกรีต องค์ละ 1 ลำ ลักษณะคล้ายกับ เรือสำเภาจีนของวัดยานนาวา กรุงเทพ ฯ แต่เล็กกว่า กาลต่อมาได้สูญหายไปหมดแล้วเหลือแต่องค์เจดีย์
ในจดหมายเหตุ การเสด็จประพาสต้น ของสมเด็จกรมพระยาดำรงค์ราชานุภาพ ก็ปรากฏชื่อวัดโกรกกรากอยู่ด้วย คือเมื่อวันที่ 30 เดือน กรกฎาคม พ.ศ.2448 เรือพระที่นั่งของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 จอดเทียบท่าวัดโกรกกราก เมื่อครั้งเสด็จประพาสต้นที่ล่องเรือมาจากบ้านแหลม จ.เพชรบุรี แวะซื้ออาหารที่บ้านท่าฉลอม และมาแวะทำอาหารที่ศาลาท่าน้ำ โดยท่านสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพได้ขึ้นมาบนวัดเพื่อให้พระรดน้ำมนต์ เนื่องจากเมาเรือ
เครดิต ประวัติข้อมูลวัด watkrokkrak.com