“ศูนย์ศิลปาชีพ บ้านแม่ต๋ำ”
ศูนย์ศิลปาชีพบ้านแม่ต๋ำ จ.ลำปาง ตั้งอยู่ที่อำเภอเสริมงาม ห่างจากตัวเมืองประมาณ 30 กม. เป็นโครงการในพระราชดำริ ก่อสร้างขึ้นมาในปี พ.ศ.2527 โดยการจัดสร้างศูนย์ศิลปชีพขึ้นนั้นมีกิจกรรมหลักๆ 3 กิจกรรม คือ กิจกรรมแรก คือ กิจกรรมปลูกป่า และป้องกันรักษาพันธุ์สัตว์ป่าในพื้นที่ รับผิดชอบ มีการปลูกป่าและมีการอนุรักษ์พันธุ์ไม้และการป้องกันไฟป่า การเพาะปลูกกล้าไม้ การลาดตระเวนป้องกันผู้ลักลอบตัดไม้ทำลายป่า รักษาพันธุ์สัตว์ป่า ปฏิบัติเป็นประจำ คือ เรื่องไม้ป่าต้องป้องให้ดี พยายามจะไม่มีไฟไหม้ในพื้นที่ป้องกันการล่าสัตว์ การตัดไม้ทำลายป่า กิจกรรมที่ 2 คือ กิจกรรมด้านเกษตรกรรม มีแปลงสาธิตการเกษตรจะมีการ เพาะปลูก พวกส้ม ผัก แปลงสาธิตการเกษตร ให้ราษฎรได้นำไปดูเป็นตัวอย่าง แจกพันธุ์ข้าว ผัก ไก่ หมู ให้ชาวบ้านไปเลี้ยงเป็นการเสริมรายได้ กิจกรรมที่ 3 เกี่ยวกับเซรามิค เครื่องปั้นดินเผา ในพื้นที่นี้ก็มีทอผ้าทั้งผ้าฝ้ายและ ผ้าไหม แกะสลัก ปลูกหม่อนเลี้ยงไหม เมื่อผลิตภัณฑ์ต่างๆ สำเร็จเป็นรูปร่าง ก็จะนำผลิตภัณฑ์เหล่านี้มาจำหน่ายในราคาถูก เป็นรายได้เสริมอีกส่วนหนึ่งด้วย ศูนย์ศิลปาชีพบ้านแม่ต๋ำ ตั้งอยู่ ณ บ้านแม่ต๋ำ หมู่ที่ 1 ตำบลเสริมซ้าย อำเภอเสริมงาม จังหวัดลำปาง ความเป็นมาของศูนย์ศิลปาชีพแห่งนี้เริ่มจากเมื่อวันที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2527
ระหว่างการแปรพระราชฐานประทับแรม ณ พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จฯ พร้อมด้วยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีทรงเยี่ยมราษฏร อำเภอเสริมงาม จังหวัดลำปาง พระครูโสภณคุณารักษ์ เจ้าคณะอำเภอเสริมงาม ได้กราบบังคมทูลว่า ยังมีหมู่บ้านยากจนแห่งหนึ่งคือบ้านแม่ต๋ำ ซึ่ง พื้นที่ของหมู่บ้านส่วนใหญ่เป็นภูเขา มีที่ราบสำหรับปลูกข้าวเพียงเล็กน้อย ราษฎรดำรงชีพด้วยการทำไร่เลื่อนลอยและรับจ้างตัดไม้ขาย ประสงค์จะให้ราษฎรในหมู่บ้านนี้มีอาชีพที่มั่นคงบ้าง สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถจึงเสด็จฯต่อไปยังบ้าน ต๋ำเพื่อทอดพระเนตรสภาพของหมู่บ้าน บ้านแม่ต๋ำ ตั้งอยู่ในเขตป่าสงวน เดิมพื้นที่บริเวณนี้เคยเป็นป่าไม้สักอันกว้างใหญ่และสมบูรณ์มากแห่ง หนึ่งของประเทศไทย แต่ชาวบ้านได้เข้าไปรับจ้างตัดไม้ขายและแผ้วถางป่าเพื่อทำไร่เลื่อนลอย จนหมดสภาพป่าไปเป็นอันมาก แม้กระนั้นชาวบ้านก็ยังยากจนเพราะมีที่ราบสำหรับเพาะปลูกน้อยและชาวบ้านก็ไม่มีความรู้เรื่องการเพาะปลูกดีพอ สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ได้มีพระราชเสาวนีย์ให้ท่านผู้หญิง สุประภาดา เกษมสันต์ ราชเลขานุการในพระองค์ ออกไปตรวจสภาพพื้นที่บ้านแม่ต๋ำ อย่างละเอียด เมื่อวันที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2527 และให้จัดตั้งโครงการศิลปาชีพขึ้นเพื่อให้ราษฎรได้มีอาชีพพอเลี้ยงตนเองงาน ศิลปาชีพประเภทแรกที่เริ่มขึ้นคืองานทอผ้าฝ้าย มีการจัดสร้างอาคารโรงฝึกทอผ้าขึ้นแล้วเสร็จในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2527
ศิลปาชีพประเภทต่อมาคือเครื่องปั้นดินเผาซึ่งกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีได้ให้ความร่วมมือมาช่วยชาวบ้านจัดสร้างอาคารโรงฝึกแล้วเสร็จในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2527 ศูนย์วิจัยและพัฒนาอุตสาหกรรมเครื่องปั้นดินเผาได้สนับ สนุนจัดส่งเจ้าหน้าที่ไปช่วยสอน ต่อจากนั้นก็เปิดสอนการแกะสลักไม้ การทอผ้าไหมการปลูกหม่อนเลี้ยงไหมและ การจักสานไม้ไผ่