“พระเจดีย์อยู่บนยอดดอยสะเก็ด และเป็นจุดชมวิวเมือง”
วัดพระธาตุดอยสะเก็ด เป็นวัดที่เก่าแก่สร้างมาช้านาน ตั้งแต่ พ.ศ.2155 ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ ๒๔๖๑ ในปี พ.ศ. 2543
ได้รับยกย่องฐานะ ให้เป็นวัดพัฒนาตัวอย่างและมีผลงานดีเด่น ของกรมการศาสนา กระทรวงศึกษาธิการ
ได้มีพระภิกษุรูปหนึ่งชื่อว่า ครูบาเก๋ จากอำเภอเมืองจังหวัดน่าน มาสร้างวิหารและบูรณะเจดีย์พร้อมทั้งสถาปนาขึ้นเป็นวัด เรียกว่า วัดพระธาตุดอยสะเก็ด
สิ่งที่น่าสนใจ
1 พระเจดีย์ ซึ่งเป็นที่บรรจุพระเกศาธาตุ อายุร่วม 1,000 ปี เป็นเจดีย์องค์ใหญ่สูง สวยสง่า มองเห็นได้แต่ไกล บนยอดเขา สร้างครอบองค์เก่าไว้ ภายในมีพระบรมสารีริกธาตุอันเป็นปูชนียวัตถุอันศักดิ์สิทธิ์ เป็นที่สักการะเคารพของชาวอำเภอดอยสะเก็ด
ทุกปีในเดือน 8 เป็ง (ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 ใต้) ทางวัดจะอันเชิญพระบรมสารีริกธาตุ ลงมาจากที่ประดิษฐานให้พุทธศาสนิกชนสรงน้ำ และจะมีปรากฏสิ่งอันเป็นปาฏิหาริย์ทุกครั้ง นอกจากนั้น ยังมีพระพุทธรูปบูชาทองคำ พระพุทธรูปทองสำริด อีกจำนวนมากเพื่อให้พุทธศาสนิกชน ได้สักการบูชาสืบไป
2. วิหารจัตุรมุข สร้างเมื่อปี พ.ศ. 2520 ด้านหน้ามีรูปปั้นหนุมานอมจันทร์ติดบันได ภายในมีจิตรกรรมฝาผนังปริศนาธรรมที่มีชื่อเสียง บ่งบอกเรื่องราว แห่งพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่เป็นคติธรรม เพื่อให้ศรัทธาสาธุชนได้นำไปประยุกต์ใช้ในการพัฒนา จิตใจ และดำเนินชีวิตได้ ปัจจุบันเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูป พระเจ้า 5 พระองค์เป็นพระ ประธานในวิหารจัตุรมุข
3.ต้นศรีมหาโพธิ์
- หน่อกล้าจากพุทธคยา ประเทศอินเดีย อัญเชิญมาโดย พระเทพวิสุทธิคุณ เจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่องค์ปัจจุบัน ทรงปลูกโดย สมเด็จพระสังฆราช วัดราชบพิตร กรุงเทพมหานคร และพระอุดมวุฒิคุณ อดีตเจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ และ พระครูมงคลศีลวงศ์ อดีตเจ้าคณะอำเภอดอยสะเก็ด หรือพระเทพวิสุทธิคุณเจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ ทรงปลูกร่วมกันเมื่อ วันที่ 29 ธันวาคม 2524
-หน่อกล้าจากประเทศศรีลังกา โดยคุณพงษ์พันธ์พรหมขัติแก้ว อุปทูต ไทยประจำประเทศศรีลังกา ทรงปลูกโดยสมเด็จพระมหานากะภัตตันตะเถระ สังฆราชประเทศศรีลังกา เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2529
4. อุโบสถ ลักษณะทรงไทยล้านนา ได้บูรณปฏิสังขรณ์ใหม่ เมื่อปีพ.ศ.2538 ก่อสร้างด้วยคอนกรีตโบราณ ก่ออิฐถือปูน ขนาดกว้าง 6 เมตร ยาว 22 เมตร
5. ลานโพธิ์ ลานกิจกรรมทางวัฒนธรรมและประเพณีส าคัญต่างๆ ของวัด มีการปลูกต้นพระศรีมหาโพธิ์ หน่อกล้าจากพุทธคยาจากประเทศอินเดีย และต้นพระศรีมหาโพธิ์ หล่อกล้าจากพุทธคยาจากประเทศศรีลังกา เป็นภูมิทัศน์สัญลักษณ์ทางพุทธศาสนา นอกจากนี้ยังมีบ่อน้ าโบราณที่มีมาแต่อดีตพระพุทธรูปปางนาคปรก และระฆังโบราณแขวนประดับไว้ ณ ลานด้านหน้าอาคารสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) พรหมรังสี
6. ศาลารายบนลานโพธิ์ เป็นศาลาแบบเรียบง่ายสร้างด้วยคอนกรีตเสริมเหล็กทรงไทยชั้นเดียวกว้าง 4 เมตร ยาว 15 เมตร หลังคามุงกระเบื้องเคลือบสีส้มอิฐ ยกช่อฟ้า เป็นประดิษฐ์ฐานพระพุทธรูปประจ าวันทั้งเจ็ด พระพุทธรูปสัมฤทธิ์ผลหรือหลวงพ่อพระเจ้าทันใจ พระพุทธสิหิงค์จ ำลอง หล่อด้วยทองเหลือง ปางมารวิชัย ศิลปะเชียงแสน ฯลฯ
7. อาคารสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) พรหมรังสี สร้างเมื่อปี พ.ศ. 2541-๒2542 ลักษณะคอนกรีตเสริมเหล็ก ก่ออิฐถือปูน 2 ชั้น ขนาดกว้าง 25 เมตร ยาว 40 เมตร ด้านล่างประดิษฐานรูปเหมือนพระพุฒาจารย์ (โต) พรหมรังสีเพื่อให้พุทธศาสนิกชนทั่วไปได้กราบไหว้บูชา ด้านบนเป็นส านักคณะสงฆ์ส านักงานเจ้าคณะอ าเภอดอยสะเก็ด ห้องประชุมเล็ก และห้องประชุมใหญ
เครดิต ข้อมูลบางส่วน จาก เว็บไซท์ topchiangmai