“เมืองเก่าแก่อายุกว่า 4,000 ปี”
เมืองพาราณสี แคว้นกาสี ในสมัยพุทธกาล เป็นเมืองขึ้นของ พระเจ้าปเสนทิโกศล แคว้นโกศล เมืองพาราณสีจะขึ้นชื่อลือชาใน เรื่องผ้า คือผ้ากาสี เป็นผ้ามีคุณภาพ ประณีตงดงาม เป็นเมืองที่ค้าขาย กับแว่นแคว้นต่างๆ พาราณสีเป็นเมืองเก่าแก่มีอายุหลายพันปี ช่วง ที่กษัตริย์มุสลิมมาปกครองพยายามเปลี่ยนชื่อพาราณสีเป็นอย่างอื่น พออำ นาจลดลง คำ ว่า พาราณสีก็ถูกมาใช้อีกครั้ง อังกฤษมาปกครอง อินเดียพาราณสีถูกเรียกว่า บันนารัส, บันนาเรส
เมืองพาราณสี เป็นเมืองที่มีแม่น้ำคงคาจากสรวงสวรรค์ไหลผ่าน เมืองพาราณสีจึงถือได้ว่าเป็นเมืองที่มีความศักดิ์สิทธิ์สูงสุด มีผู้คนนับล้านจากทั่วถิ่นอินเดียเดินทางมาประกอบพิธีกรรม ณ ริมฝั่งแม่น้ำคงคา
เมืองพาราณสี เมืองนี้ยังคงเป็นเมืองที่มีเสนห์เฉพาะตนและเป็นเมืองเก่าแก่ที่สุด ชาวฮินดูที่เลื่อมใสและถือปฎิบัติโดยเคร่งครัดที่จะพากันอาบน้ำชำระร่างกายในแม่น้ำคงคา โดยมีเชื่อกันอย่างจริงจังตลอดมานับพันๆปีว่า หากไปอาบน้ำในแม่น้ำคงคา บาปนั้นจะหมดสิ้นไป และในวันหนึ่งๆจะมีผู้คนพากันไปอาบน้ำล้างบาปกันเต็มท่าน้ำไปหมด โดยเฉพาะท่าอัศวเมธ เมืองพาราณสี
เมืองพาราณสี ยิ่งวันเพ็ญเดือนสิบสองด้วยแล้ว ชาวฮินดูนับแสนคนจากทั่วทุกสารทิศ จะพากันมุ่งหน้าสู่นครพาราณสี เพียงเพื่อจะล้างบาปที่แม่น้ำคงคา
สำหรับคนไทยแล้วเมืองพาราณสี คือสถานที่มาแสวงบุญ ส่วนคนอินเดียเมืองพาราณสี คือสถานที่มาล้างบาปและสถานที่เดินทางมาตายที่นี่ ว่ากันว่าชาวฮินดูทุกคนล้วนปราถนาที่จะมาตายและได้เผาศพที่นี่ บางคนรู้ตัวว่าใกล้ตาย ก็จะให้ลูกหลานพามานอนรอความตายที่นี่เลย เพื่อจะได้ไปสู่ภพชาติที่ดีกว่าและบาปจะได้รับการชำระเสียแต่ชาตินี้ บางคนก็สั่งเสียลูกหลานไว้ ให้มาเผาหรือลอยน้ำที่นี่
ศาสนาพราหมณ์ให้ความสำคัญของแม่น้ำคงคามาก่อนพุทธกาล ทุกวันนี้ก็ยังคงเป็นเช่นนั้น เพราะเชื่อกันว่าแม่น้ำคงคาไหลมาจากสวรรค์ทางช้างเผือกดินแดนสุขาวดี กล่าวกันว่า แม่คงคาเป็นมเหสีองค์หนึ่งของพระศิวะหรือพระอิศวร เทพประธานบนยอดเขาไกรลาส เขาพระสุเมรุ แม่คงคาไหลผ่านเมืองใด พราหมณ์ผู้นำความเชื่อทางศาสนาฮินดูก็ให้ความสำคัญเมืองนั้น จนมีคำกว่าว่า ไฟเผาศพไม่เคยดับมาแต่อดีตกาล อย่างน้อยก็ไม่ต่ำกว่า 4,000 ปี
น้ำในแม่น้ำคงคา มองดูแล้วสีขุ่น แถมยังมีเศษขยะ ซากศพและสิ่งปฎิกูล แต่ไม่น่าเชื่อว่ามีหลายต่อหลายองค์กรนำน้ำในแม่น้ำคงคาคงคา ไปตรวจพิสูจน์แล้วพบว่าไม่มีสิ่งสกปรก เพราะมีแร่ธาตุบางชนิดที่สามารถฆ่าเชื้อโรคได้
การล่องแม่น้ำคงคาอยู่ที่ ท่ามณิกรรนิการ์ หรือท่าตุ้มหูพระศิวะ ที่ได้ชื่อว่า ท่าตุ้มหูพระศิวะ เพราะมีเรื่องเล่ากันมาว่า ท่านี้เป็นท่าน้ำที่พระศิวะมาอาบน้ำ เมื่อทรงอาบน้ำเสร็จก็ขึ้นมาจากแม่น้ำ ปรากฎว่าตุ้มหูของพระองค์หล่นหายหาเท่าไรก็ไม่เจอ
บริเวณท่าแห่งนี้ มีการเผ่าศพทุกวันวันละเป็นสิบๆ ศพ รอบๆ สถานที่แห่งนี้จะมี “โรงแรมแห่งความตาย” เป็นโรงแรมห้องเล็ก ๆ ไว้สำหรับคนที่รอความตายมาพัก และยังมีที่หลบแดดหลบฝนของญาติ ๆ ที่นำศพมาทำพิธี
ชาวฮินดูเชื่อว่าความตายเป็นการทิ้งสังขารเก่าที่ผุพัง ไปเกิดใหม่ตามแต่บุญกรรมของดวงวิญญาณนั้น คล้ายกับพุทธเราเลยนะคะ ความตายจึงเป็นเรื่องธรรมดา ๆ