“โบสถ์ ศิลปะประยุกต์ประติมากรรมปูนปั้นเบญจรงค์ เป็นงานศิลปะนานาชาติร่วมสมัยประกอบด้วยภาพ เทวดานางฟ้า ฤาษี ยักษ์ มาร สรรพสัตว์ต่าง ๆ จนถึงตัวละครการตูน และวรรณกรรมสำคัญๆ เช่น ซุปเปอร์แมน สไปเดอร์แบน กับตันอเมริกา ป๊อบอาย ปิ๊กกาจู รามเกียรติ์ สามก๊ก มังกรหยก คาวบอย ไวกิง กษัตริย์อาเธอร์ ฟาโรห์ ซามูไร อินเดียนแดง”
จุดเด่น
ความแปลกตาในเชิงสถาปัตยกรรม ศิลปะประยุกต์ร่วมสมัย ฉีกแนวดั้งเดิมเป็นอย่างมาก เช่น ภายนอกวิหาร วิหารบริเวณคันทวยมีรูปปั้นนักรบโบราณหลายเชื้อชาติ และเทวดาชาติต่าง ๆ รูปปั้นเดวิด เบคแคม เป็นดินปั้นขนาด 24 นิ้ว ปิดทองตั้งอยู่บนฐานพระ คู่กับ รูปปั้นเทวดา ส่วนภายในผนังด้านในประดับประดาเครื่องเบญจรงค์ หินสีและอัญมณีต่าง ๆ ทำเป็นจิตรกรรมฝาผนังซึ่งไม่มีลายซ้ำกันเลย ส่วนยอดช่อฟ้าของอุโบสถหลังนี้เป็นรูปดอกบัวบาน สร้างด้วยทองคำหนักกว่าหนึ่งกิโลกรัม ทั้งวิหารและอุโบสถหลังใหม่ คาดว่าใช้งบประมาณในการก่อสร้างรวมกว่า 250 ล้านบาท
ด้านนอกและภายในอุโบสถ นำศิลปะร่วมสมัยมาใช้ประดับตกแต่ง อย่างตัวการ์ตูน บุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์ ทั้งสไปเดอร์แมน ซูเปอร์แมน มิกกี้เม้าส์ ผู้เฒ่าเต่า และหมีพูห์ เป็นต้นโดยไม่ได้ทิ้งแนวคิดหลักเกี่ยวกับความเชื่อเรื่องเขาพระสุเมรุ พุทธปรัชญาที่มีในไตรภูมิ รวมถึงอดีตชาติของพระพุทธเจ้าที่ยังคงอยู่ผสมผสานกัน ภายในอุโบสถประดิษฐาน พระพุทธสุโขทัย พระประธานในอุโบสถ โดยมีอายุเก่าแก่กว่า 700 ปี
วัดมีมณฑปหลวงพ่อวงษ์ ลานบุญ-แสวงธรรม โบสถ์น้อยซึ่มีรอยพระบาทจำลองที่สร้างขึ้นเมื่อปี 2465 และลูกนิมิตที่ทำขึ้นสมัยหลวงพ่อวงษ์ มีภายในศาลาเฉลิมพระเกียรติ 50 พรรษา และวังปลาเฉลิมพระเกียรติ ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา
ประวัติวัด
สันนิษฐานว่าสร้างราวปลายกรุงศรีอยุธยาถึงต้นกรุงรัตนโกสินทร์ เดิมเป็นเพียงสำนักสงฆ์หรือวัดเล็ก ๆ อยู่กลางสวน ไม่ทราบนามผู้สร้าง ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 2–3 มีหลักฐานว่า พระยาเพชรพิชัย (เกษ) และพระยาราชสงคราม (ทัต) ร่วมกันเป็นแม่กองงานได้รับมอบหมายในการสร้างพระนครเขื่อนขันธ์ (พระประแดง) รวมถึงวัดต่าง ๆ หลายวัด เช่น วัดไพชยนต์พลเสพย์ราชวรวิหาร และวัดโปรดเกศเชษฐาราม แล้วจึงเห็นว่ามีวัดปริวาสที่อยู่ฝั่งตรงข้ามแม่น้ำมีสภาพทรุดโทรม จึงได้นำวัสดุที่เหลือมาทำการบูรณะใหม่จนสวยงามแล้วตั้งชื่อว่า วัดปริวาสราชสงคราม ตามบรรดาศักดิ์ของท่านลงท้ายชื่อวัดนี้ด้วย
ในปี พ.ศ. 2551 เนื่องจากวัดแห่งนี้ตั้งติดริมน้ำ อุโบสถและวิหารหลังเดิมมีความทรุดโทรมจากดินทรุด เจ้าอาวาสจึงสร้างอุโบสถหลังใหม่พร้อมทั้งวิหารและวิหารคด บริเวณพื้นที่ด้านในไม่ติดริมน้ำ โดยวิหารและอุโบสถหลังใหม่มีความแปลกตาในเชิงสถาปัตยกรรมที่ฉีกจากแนวดั้งเดิมเป็นอย่างมาก