“กราบไหว้ขอพร หลวงพ่อพระสังกัจจายน์ ที่มีความศักดิ์สิทธิ์มาก”
วัดสระทอง เป็นที่ประดิษฐานหลวงพ่อพระสังกัจจายน์ เป็นพระพุทธรูปที่ชาวร้อยเอ็ดให้ความเคารพสักการะ พระยาขัตติยะวงษา (ท้าวธน) เป็นเจ้าเมืองร้อยเอ็ด ได้เห็นถึงความศักดิ์สิทธิ์ จึงได้นำมาประดิษฐานที่วัดสระทองและให้เป็นพระคู่บ้านคู่เมือง อดีตข้าราชการทุกคนที่ได้รับตำแหน่งต้องมาสาบานตนต่อหน้าหลวงพ่อว่าจะซื่อสัตย์ต่อบ้านเมือง
ประวัติความเป็นมาของ วัดสระทอง เดิมมีชื่อว่า วัดศรีมงคล จากหลักฐานก็คือ มีชื่อเกี่ยวกับการตั้งโรงเรียนขึ้นในจังหวัดร้อยเอ็ด ครั้งแรกเมื่อปี พุทธศักราช 2543 ได้ตั้งโรงเรียนขึ้นที่วัดศรีมงคล เปิดสอนหนังสือแก่เด็กนักเรียน โดยมีพระภิกษุสามเณรในวัดศรีมงคล เป็นครูสอน เท่าที่มีชื่อปรากฎก็คือ พระครูวินัยธรรส พระภิกษุสิงห์ สุวรรณบล พระภิกษุพิม์ สุวรรณบลและสามเณรผ่อง จรัสฉาย ขณะนั้นมีนักเรียน 20 คน วิชาที่สอนได้แก่ วิชาภาษาไทย และเลขคณิต สถานที่สอนใช้วิหารหลวงพ่อสังกัจจายน์ ต่อมาพระยาพระเสด็จสุเรนทราธิบดี (ม.ร.ว. เปีย มาลากุล) เสนาบดีกระทรวงธรรมการสมัยนั้นได้ให้จังหวัดต่าง ๆ ตั้งโรงเรียนรัฐบาลขึ้นเพื่อให้การศึกษาแก่กุลบุตรกุลธิดา จึงส่งราชบุรุษจันทร์ อุตตมพรหม ขั้นมาเป็นครูคนแรกของจังหวัดร้อยเอ็ดและได้ไปสอนโรงเรียนวัดศรีมงคลโดยยกฐานะโรงเรียนขึ้นเป็นโรงเรียนรัฐบาลประจำจังหวัด
วัดสระทองที่เปลี่ยนชื่อจาก วัดศรีมงคล ตั้งแต่เมื่อใดนั้นสันนิฐานกันว่าคงจะเปลี่ยนหลังจากย้ายโรงเรียนไปจากวัด ที่เปลี่ยนชื่อมาเป็นวัดสระทอง คงจะเป็นการเปลี่ยนให้เหมาะสมกับสถานที่ตั้งวัด เพราะที่ตั้งวัดสระทองชาวบ้านเรียกสระในวัดว่าสระทอง ในตัวเมืองร้อยเอ็ดมีสระชื่อต่าง ๆ หลายสระ เช่น สระทอง สระแก้ว สระดู่ สระสิม สระขวาง สระบัว ปัจจุบันสระต่าง ๆ ชาวบ้านก็ยังเรียนขานกันอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งน้ำในสระทอง สระแก้ว ถือว่าเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์ในราชพิธีต่าง ๆ ทางราชการก็ได้นำน้ำจากสระดังกล่าวนี้ไปทำพิธีเพื่อความศักดิ์สิทธิ์และเป็นสิริมงคล