“พระแก้วบุษราคัม พระพุทธรูปคู่บ้านเมือง จ.อุบลราชธานี”
วัดศรีอุบลรัตนาราม หรือวัดศรีทอง จ.อุบลราชธานี เป็นวัดสายธรรมยุต สร้างเมื่อปี พ.ศ.2398
สมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ถึงปีนี้ก็มีอายุครบ 150 ปีบริบูรณ์ ที่ตั้งของวัดศรีอุบลรัตนาราม เดิมเป็นสวนของพระอุปฮาชโท ต้นตระกูล ณ อุบล ซึ่งมีความศรัทธาในบวรพระพุทธศาสนา จึงยกที่ดินราว 30 ไร่เศษใช้สร้างวัด พร้อมอาราธนาพระเทวธัมมี จากวัดสุปัฏนาราม มาดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสรูปแรก ในยุคสมัยการปกครองในระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ วัดศรีอุบลรัตนารามใช้เป็นที่ทำพิธีถือน้ำพิพัฒน์สัตยา และเป็นที่บรรพชาอุปสมบทพระมหาเถระหลายรูป อาทิ พระอุบาลีคุณูปมาจารย์, สมเด็จพระมหาวีรวงศ์, พระศาสนาดิลก, พระอาจารย์เสาร์ กนตสีโล, พระอาจารย์มั่น ภูริทตโต
นอกจากนี้ วัดศรีอุบลรัตนารามยังเป็นที่ประดิษฐานพระแก้วบุษราคัม พระพุทธรูปคู่บ้านเมือง ที่มีมาก่อนตั้งเมืองอุบลราชธานี สำหรับพระแก้วบุษราคัม เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ศิลปกรรมสมัยเชียงแสน แกะสลักจากแก้วบุษราคัม ขนาดหน้าตักกว้าง 3 นิ้ว สูง 5 นิ้ว เป็นสมบัติของเจ้าปางคำ ราชวงศ์จากเมืองเชียงรุ้งแสนหวีฟ้า ที่แตกหนีพวกฮ่อมาจากเมืองเชียงรุ้ง และมาสร้างเมืองนครเขื่อนขันธ์กาบแก้วบัวบาน (จ.หนองบัวลำภู) การมีพระแก้วบุษราคัมมีความเกี่ยวเนื่องกับพระแก้วมรกต เนื่องด้วยสมัยพระเจ้าพรหมมหาราช แห่งโยนกเชียงแสนนครเงินยาง มีพระแก้วมรกตไว้ในพระนคร ทำให้เจ้านายตามเมืองต่างๆ แสวงหาแก้วมณีมีค่ามาสร้างเป็นพระพุทธปฏิมากรไว้ในนคร เพื่อสืบทอดอายุพระพุทธศาสนาที่ประกอบด้วยแก้ว 3 ประการ คือ พระพุทธรัตนะ, พระธรรมรัตนะ และพระสังฆรัตนะ ดังนั้น ในดินแดนสิบสองปันนา ล้านนา ล้านช้าง ซึ่งมีลำธารที่อุดมด้วยรัตนชาติหลากสี จึงมีพระพุทธรูปสร้างด้วยแก้วมณี อาทิ พระเสตังคมณี นครลำปาง, พระแก้วขาว นครเชียงใหม่ และพระแก้วสีเหลืองที่เรียกว่า พระแก้วบุษราคัม
ต่อมาพระแก้วบุษราคัมได้ตกทอดมาถึงพระเจ้าตาผู้เป็นลูกเจ้าปางคำ และปี พ.ศ.2314 นครเขื่อนขันธ์กาบแก้วบัวบานถูกเจ้าสิริบุญสารแห่งเวียงจันทน์ยกทัพมาตี พระเจ้าตาถึงอสัญกรรมในสนามรบ เจ้าพระวอ และท้าวคำผง จึงอพยพหนีศึกมาสร้างบ้านที่บ้านดอนมดแดง จ.อุบลราชธานี พร้อมอัญเชิญพระแก้วบุษราคัมมาด้วย และขออยู่ในขันธสีมาเจ้ากรุงธนบุรี โดยสร้างวัดหลวงใช้ประดิษฐานพระแก้วบุษราคัม จนถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 มีการปฏิรูปการปกครอง ได้มีการส่งข้าหลวงมากำกับดูแลงานตามหัวเมือง ทำให้เจ้าราชบุตรหนูคำ เจ้าเมืองสมัยนั้น เกรงว่าข้าหลวงจะแสวงหาของสำคัญของบ้านเมืองไปเป็นของตน จึงนำพระแก้วบุษราคัมออกจากวัดหลวงไปซ่อนไว้ที่บ้านวังกางฮุง (ปัจจุบันเป็นหมู่บ้านอยู่ใน อ.วารินชำราบ) กระทั่งพระอุปฮาชโทสร้างวัดศรีอุบลรัตนาราม มีญาท่านเทวธัมมี ซึ่งพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวให้ความเคารพนับถือ เป็นเจ้าอาวาส พระอุปฮาชโทจึงไปอัญเชิญพระแก้วบุษราคัมมาถวายเป็นพระพุทธปฏิมาประดิษฐานประจำวัด พระแก้วบุษราคัมจึงได้ถูกอัญเชิญกลับเข้าเมืองอีกครั้ง และในอดีตจะให้ประชาชนได้กราบไหว้บูชาเพียงปีละครั้ง ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เพื่อความสะดวกในการดูแลรักษาความปลอดภัยองค์พระแก้วบุษราคัม
พุทธศาสนิกชนเข้าไปกราบนมัสการได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น.