“ฮาลองบก เป็นชื่อที่คนไทยตั้งฉายาให้ เพราะแตกต่างกับการเที่ยวฮาลองเบย์ที่ต้องนั่งเรือท่องเที่ยวขนาดจุผู้โดยสารราว 60-70 คน แต่ฮาลองบกนี้ตรงกันข้ามเพราะใช้เรือแจวขนาดเล็กๆนั่งได้ราว 3-4 คน”
ฮาลองบก เป็นชื่อที่คนไทยตั้งฉายาให้ เพราะแตกต่างกับการเที่ยวฮาลองเบย์ที่ต้องนั่งเรือท่องเที่ยวขนาดจุผู้โดยสารราว 60-70 คน แต่ฮาลองบกนี้ตรงกันข้ามเพราะใช้เรือแจวขนาดเล็กๆนั่งได้ราว 3-4 คน โดยมีชาวบ้านเป็นคนพาย ต่างกับบ้านเราที่ส่วนใหญ่นิยมใช้เรือหางยาว มีเสียงดัง และหนวกหูมาก
การพายเรือล่องไปในลำน้ำที่ลัดเลี้ยวไปตามหุบเขา เป็นบรรยากาศที่ดีมาก ทุกอย่างดูเงียบสงบ จะได้ยินเสียงก็แต่ไม้พายกระทบน้ำ และส่วนใหญ่จะพายตามกันไปเหมือนเป็นขบวน ระหว่างนั้นนักท่องเที่ยวก็จะได้ชมทิวทัศน์ของทะเลสาบอันน่าตื่นตา หลายคนเปรียบเทียบว่าไม่ต่างกับกุ้ยหลินในจีน แต่ความจริงแล้วเมืองนิญบิ๋ญกับเมืองกุ้ยหลินในมณฑลกวางสีของจีนก็อยู่ไม่ห่างกันนัก ภูมิประเทศจึงดูคล้ายๆกัน
เรือแจวหรือเรือพายของเวียดนามค่อนข้างแปลกกว่าที่อื่นๆ เรือแต่ละลำจะมีไม้พายขนาดใหญ่ 2 ข้าง ผูกยึดไว้กับกาบเรือ เวลาพายจะต้องโยกไม้พายไปข้างหน้าพร้อมๆกันทั้งสองข้าง เรือแจวแบบนี้คล้ายเรือแคนูของยุโรป ต่างกันตรงที่เรือแคนูจะนั่งกลับหลัง ส่วนเรือแจวของเวียดนามจะนั่งหันหน้าไปตามปกติ ที่แปลกกว่าเรืออื่นๆตรงที่หากคนพายเมื่อยมือก็จะใช้เท้าแทน ได้ยินว่าการใช้เท้าจะทุ่นแรงกว่าการใช้มือ
เที่ยวชมได้ตลอดทั้งปี